แนะนำ/ศึกษา วัตถุมงคล
หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
พระพุทธวิถีนายก มีนามเดิมว่าบุญ เกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2391 ตรงกับปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ตำบลท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เป็นบุตรชายคนโตในจำนวนที่น้อง 6 คนของนายเส็งและนางลิ้ม เมื่อบิดาถึงแก่กรรม ป้าของท่านได้นำมาฝากให้อยู่กับพระปลัดทอง วัดคงคาราม (วัดกลางบางแก้ว) อำเภอนครชัยศรี เมื่อมีอายุ 15 ปีจึงบรรพชาเป็นสามเณร และได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2412 โดยมีพระปลัดปาน วัดตุ๊กตา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดทอง วัดกลางบางแก้ว พระอธิการทรัพย์ วัดงิ้วราย และพระเกจิอาจารย์อีก 2 ท่าน และได้รับฉายาทางธรรมว่า ขนฺธโชติ
หลวงปู่บุญเริ่มสร้างวัตถุมงคลภายหลังจากเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี พ.ศ. 2429 จนมรณภาพเมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2478 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
เกี่ยวกับวัตถุมงคลและ พระพิมพ์พระเครื่อง หลวงปู่บุญท่านสร้างพระเครื่องรางของขลังขึ้นหลายอย่าง และการสร้างสมัยของท่านนั้น มิได้สร้างเพื่อเรียกร้องเงินทองแต่อย่างใด ท่านแจกให้แก่ชาวบ้านญาติโยมไปฟรีๆ เฉพาะผู้ที่อยากจะได้ ในการสร้างพระเครื่องรางและวัตถุมงคลครั้งแรก หรือยุคแรกของท่านนั้น มีหลักฐานบันทึกไว้ในสมัยนั้นว่ามีเพียง พระยาหอม ที่เรียกในสมัยนี้ว่า พระผงยาจินดามณี และ เบี้ยแก้ ทั้งสองอย่างนี้ได้สร้างชื่อเสียงของท่านให้โดดเด่น และโด่งดังขึ้นมาตามลำดับ
พระเครื่องรางของขลังหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วยุคหลังรุ่นแรกๆ รวมทั้งที่ได้พบในกรุพระของท่าน ซึ่งบรรจุใส่ไว้ใน 22 บาตร ในมณฑปที่คนร้ายลักลอบเข้ามาขโมยขุด มักจะสร้างด้วยเนื้อนวโลหะ เนื้อว่าน เนื้อว่านผสมรักดำ และพระเนื้อดินเผาหลวงปู่บุญ เท่าที่มีผู้ค้นคว้าไว้แล้ว โดยเฉพาะที่โดดเด่นและโด่งดังตั้งแต่ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น เนื้อนวโลหะก็มี พระช่อชัยวัฒน์หลวงปู่บุญ ทรงชะลูด พระช่อชัยวัฒน์ทรงป้อม (ภาษาใช้ในสมัยนั้น) พระช่อชัยวัฒน์ บัวคว่ำบัวหงาย และ เหรียญรูปเหมือนหลวงปู่บุญ
พระเนื้อว่านหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ซึ่งจะมีส่วนเนื้อว่านก็มี พระนั่งสมาธิเพชร, พระนั่งสมาธิเพชร ทรงโค้ง, พระนั่งสมาธิเพชร ทรงสามเหลี่ยม นอกจากนี้ยังมีพระเนื้อว่านผสมรักดำ ได้แก่ พระหลวงปู่บุญเศียรโล้นสะดุ้งกลับ, พระหลวงปู่บุญ พิมพ์ปรกโพธิ์ใหญ่-เล็ก, พระหลวงปู่บุญ พิมพ์นาคปรกเล็ก และพระหลวงปู่บุญ ซุ้มเรือนแก้ว
พระเครื่องเนื้อดินเผาหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นอกจากนี้ก็ยังมี พระเนื้อดินเผา ได้แก่ พระหลวงปู่บุญ พิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับ, พระหลวงปู่บุญพิมพ์บัวใหญ่-เล็ก, พระหลวงปู่บุญ ปางนาคปรก และยังมีอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ก็คงต้องค่อยศึกษากันไป
พระผงยาวาสนาจินดามณี วัดกลางบางแก้ว สำหรับ พระยาหอม หรือ พระผงยาจินดามณี บ้างก็เรียกว่า พระผงยาวาสนา หลวงปู่บุญ นั้น มีผู้อ้างว่าตำราดังกล่าว (จากวัดกลางบางแก้ว) ตำราเล่มนี้ตกทอดมาอยู่ที่อดีตเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้ว แล้วมาถึงยุคหลวงปู่บุญ แถมยังมีการถ่ายทอดไปถึง หลวงปู่เพิ่ม และพระอาจารย์ใบ ตามลำดับ แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือพระผงยาจินดามณีของหลวงปู่บุญ
Luang Phor Boon was born on July 3rd, B.E.2391 during the reign of King Rama III. He was the eldest amongst the six children of Mr. Seng and Mrs.Lim.
When he was 13, his father passed away and he was sent to Wat Klang Bangkaew to learn Lord Buddha’s Dharma. He was ordained as a novice at the age of 15.Aged 20 he was ordained as a Buddhist monk on June 21, B.E.2412.
Luang Phor Boon is regarded as one of the Top-Ten Gurus in Thailand and he is well-respected for his Buddhakhom (Buddhist magic). One of his famous Buddhakhom is JetroParivaYana. JetroParivaYana is an advance Dharma that can detect anyone’s mind. In addition to his ultra Buddhist magic, he could also chant the Maha Chinda Manee Mantra that was said when it was chanted with great smadhi, he was able to call Metta, Wealth and Fortune to bestow on you.
Luang Phor Boon made many different phims of amulets. He was famous for his Wan (Herbal) amulets called Phongya Chindamanee which cost easily with many ten thousands Baht. Apart from his herbal amulets, he had also made many amulets comprise of baked clay, bronze, silver, copper, lead/tin and ivory etc. To name a few which are highly sought after by collectors, they are Khiao Ser (Tiger Tooth), Bia Gae (Cowry Shell), NakProk and NangKwak. His Phra Chaosua amulet remains the most expensive in the market today. His third generation disciple ( LP Cher ) created the 2nd batch of Chao Sua in B.E 2535 and remains the next available subsitute to LP Boon's ChaoSua
He was a close friend of many contemporarily famous Guru Monks viz LP Nak of Wat HuaiJorake, ChaoKhun Vinai Kitkosol and ChaoKhun Phrom of Wat Gallaya, LP Taab Wat Thong, and Somdej Phra Sangkharaj (Pae)--the Supreme Patriarch of Wat Suthat. Famous ChaoKhun Sri (Sondh) had first learned with LP Boon and later left for Wat Suthat and became the Supreme Patriarch's right hand and closest disciple. For LP Chaem of Wat Takong, a greatest and most famous Guru Monk of NakonPathom and the teacher of LP Tae Kongthong, was LP Boon's disciple.
Luang Phor Boon was a pre-war great guru and worshipped as one of the greatest monk in Nakonpathom. He practiced very advance Dhamma and respected by many Gurus from 24xx era. He had mind miracle called "JetroPariyaYana" which makes him able to reads people's mind.
He created a very important Mantra called the Maha Chindamanee Mantra. It is Maha Metta Katha. Anyone who chant the great Katha will be able to call all beings including Metta, Wealth and Fortune to come.
He made many Phims (mold) amulets from different material such as herb, baked clay, bronze, silver, copper, lead and etc. LP Boon made very effacious amulets. All his amulets has long history of fficiencies from those who wears them and experiences.
However, The most famous amulet from Wat Klabangkeaw is "Biage" a shell amulet which has many effacious effects to the wearer.
LP Boon was in monkhood for 66 years and passed away at the age of 88 in BE2478.
เหรียญเจ้าสัว รุ่นแรก
พระผงยาจินดามณี หลวงปู่บุญ