แนะนำ/ศึกษา วัตถุมงคล
พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ มีชาติกำเนิดในสกุล “หนูศรี” เดิม ชื่อ ดู่ เกิดเมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๗ ตรงกับวันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะโรง ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา ณ บ้านข้าวเม่า ตำบลข้าวเม่า อำเภออุทัย จังหวัด พระนครศรีอยุธยา
เมื่อท่านอายุได้ ๒๑ ปี ก็ได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ ตรงกับวันอาทิตย์แรม ๔ ค่ำ เดือน ๖ ณ วัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีหลวงพ่อกลั่น เจ้าอาวาสวัดพระญาติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ มีหลวงพ่อแด่ เจ้าอาวาสวัดสะแก ขณะนั้นเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และมีหลวงพ่อ ฉาย วัดกลางคลองสระบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า“พรหมปัญโญ”
ในพรรษาแรก ๆนั้น ท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดประดู่ทรงธรรม ซึ่งในสมัยนั้นเรียกว่าวัดประดู่โรงธรรม โดยมีพระอาจารย์ผู้สอนคือท่านเจ้าคุณเนื่อง พระครูชม และ หลวงพ่อรอด (เสือ) เป็นต้น
ในด้านการปฏิบัติพระกรรมฐานนั้น ท่านได้ศึกษากับหลวงพ่อกลั่น ผู้เป็นอุปัชฌาย์ และหลวงพ่อเภา ศิษย์องค์สำคัญของหลวงพ่อกลั่น ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของท่าน เมื่อท่านบวชได้พรรษาที่สองประมาณปลายปี พ.ศ. ๒๔๖๙ หลวงพ่อกลั่นมรณภาพ ท่านจึงได้ศึกษาหาความรู้จากหลวงพ่อเภา เป็นสำคัญ นอกจากนี้ท่านยังได้ศึกษาจากตำรับตำราที่มีอยู่จากชาดกบ้าง จากธรรมบทบ้างและด้วยความที่ท่านเป็นผู้ใฝ่รู้รักการศึกษา ท่านจึงได้เดินทางไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากพระอาจารย์อีกหลายท่านที่จังหวัดสุพรรณบุรี และสระบุรี
พระเครื่องหรือพระบูชาต่างๆ ที่ท่านอธิษฐานปลุกเสกให้แล้วนั้น ปรากฏผลแก่ผู้บูชาในด้านต่างๆ เช่น แคล้วคลาดฯลฯ นั่นก็เป็นเพียงผลพลอยได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ทางโลกๆ แต่ประโยชน์ที่ท่านสร้างมุ่งหวังอย่างแท้จริงนั้นก็คือ ใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติภาวนา มีพุทธานุสติ กรรมฐาน เป็นต้น นอกจากนี้แล้วผู้ปฏิบัติยังได้อาศัยพลังจิตที่ท่านตั้งใจบรรจุไว้ในพระเครื่องช่วยน้อมนำและประคับประคองให้จิตรวมสงบได้เร็วขึ้น ตลอดถึงการใช้เป็นเครื่องเสริมกำลังใจและระงับ ความหวาดวิตกในขณะปฏิบัติ ถือเป็นประโยชน์ทางธรรมซึ่งก่อให้เกิดพัฒนาการทางจิตของผู้ใช้ไปสู่การพึ่งพาตนเองได้ในที่สุด
หลวงปู่ดู่ได้ละสังขารไปด้วยอาการอันสงบด้วยโรคหัวใจในกุฏิท่าน เมื่อเวลาประมาณ ๕ นาฬิกาของวันพุธที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๓ อายุ ๘๕ ปี ๘ เดือน อายุพรรษา ๖๕ พรรษา สังขารธรรมของท่านได้ตั้งบำเพ็ญกุศลโดยมีเจ้าภาพ สวดอภิธรรมเรื่อยมาทุกวันมิได้ขาด ตลอดระยะเวลา ๔๕๙ วัน จนกระทั่งได้รับพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ในวันเสาร์ที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๔
Luang Poo Doo (officially called “Pra Prompunyo”) was born on May 10, B.E.2447 in Uthai District (Ayuttaya Province). His parents Mr.Put and Mrs.Puang were farmers. It seemed like he was destined to be a famous monk since the day he was born was one of the most important Buddhist days, called “Visakha Bucha Day” - a day to commemorate the birth, enlightenment and death of Lord Buddha.
Luang Phor Doo, just like other sacred monks, tried to learn various magic sciences. To get the right experience he set out for travel to the deep forests in Karnchanaburi and Supunburi Province. He also stayed at the very respected sacred shrine “Pra Tandongrung”. It was recorded that at the time he was very interested in sacred tattooing, and got tattooed on the most of his body. However later, when he grown older, he considered that sacred tattooing was just a magic science that does not really help people being truly unleashed from the circle of creatures (comprising the birth, aging,, being ill and dying). That's why he had turned to be more interested in meditations, which was accepted as the best way to help developing the human soul to be purified and powerful enough to leave the circle.
Luang Poo Doo was famous for his mercy for all creatures and everyone, who visited the temple, would be allowed to touch his mercy. LP Doo would never refuse welcoming them despite being very tired, after working hard all day.
In around B.E.2527 Luang Poo Doo ’s health became worse. He had to visit the hospital several times, and was found to have a serious heart disease. Although it was suggested to him to stay at the hospital for many times until his heart becomes better, he refused and stayed at the Wat. He was simply felt so responsible for the Buddhism activities and all of his followers at the temple. LP Doo kept on hard working until the year B.E.2532. Lots of people were visiting the temple to listen to his teachings, without realising that the old monk was seriously ill. LP Doo never complained about his weakened health, he had just kept on teaching Lord Buddha’s Dharma to all visitors.
In the morning of January 16, B.E.2533, Luang Poo Doo welcomed the visitors with his face smiling as usual. No one seemed to be alerted that this famous monk would leave his body tomorrow. In the next morning ( January 17, B.E.2533, at 05.00 a.m.) the monks and novices in the temple found Luang Poo Doo passed away. He was 85 years and 8 months old. His body was buried during the official funeral under the King’s patronage on April 20, B.E.2534. He had served Buddhism for 65 years.
Although LP Doo has been away for more than 16 years, lots of people keep visiting Wat Sakae every year to organize a Buddhism ceremony dedicated to him and his work that helped to lead many people to successful ways of lives.
พระพรหม พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่ดู่ ปี2517
เหรียญเศรษฐี หลวงปู่ดู่ ปี2531
